การผสมสก๊อตช์วิสกี้นั้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ สำหรับจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ นี่คือทักษะขั้นสูง อาศัยการอุทิศตน และความรู้ด้านวิสกี้ประเภทต่างๆ ติดต่อกันยาวนานถึงสองศตรวรรษ เรียนรู้ไปจนถึงวิสกี้สูตรดั้งเดิมของผู้ก่อตั้ง
ปัจจุบัน ปรมาจารย์ด้านการปรุงวิสกี้ จิม เบฟเวอริดจ์ เป็นผู้ครอบครองมรดกความรู้เรื่องการผสมวิสกี้อันล้ำค่า และเป็นผู้ครองครองซิงเกิ้ลเกรนสก๊อตช์วิสกี้ และซิงเกิ้ลมอลต์สก๊อตช์วิสกี้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เบฟเวอริดจ์เข้าใจวิสกี้อย่างลึกซึ้ง โดยไม่ได้จำกัดเพียงแค่ลักษณะเด่นและไสตล์ของวิสกี้แต่ละชนิดในการดูแล หรือ วัตถุดิบที่ใช้ในถังบ่มแต่ละถัง แต่ยังรวมไปถึงกรรมวิธีการผสมและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการผสมวิสกี้สองตัวไว้ด้วยกัน
ถึงกระนั้นเอง การจะรังสรรค์วิสกี้ล้ำค่าขึ้นมาสักเบลนด์หนึ่งไม่ได้อาศัยแค่ความเข้าใจเรื่องวิสกี้อย่างลึกซึ้งเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยปัจจัยบางประการที่ช่วยยกระดับวิสกี้และเปิดประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าแค่การนำวัตถุดิบทั้งหลายมารวมกันเท่านั้น
การผสมวิสกี้อาศัยความหลงใหล ความคิดสร้างสรรค์ และวิสัยทัศน์ที่แรงกล้าของปรมาจารย์ด้านการปรุงวิสกี้ จิม เบเวอร์ริดจ์มีสัญชาตญาณและความสามารถที่ไร้ผู้ใดเทียม ซึ่งบ่มเพาะมาจากประสบการณ์นับหลายปี และการอุทิศตัวให้กับศิลปะการสรรค์สร้าง เขาสามารถวางโครงสร้าง รูปแบบ และความหมายลงไปในทุกๆ การจิบได้ เสมือนกับศิลปินผู้สรรค์สร้างผลงงานชิ้นโบแดง
นอกจากนี้แล้ว เบเวอร์ริดจ์ยังสามารถผลิตวิสกี้รสเดิมซ้ำได้หลายต่อหลายครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพของวิสกี้นั้นคงเดิม ไม่เปลี่ยนไปจากมาตรฐานเป็นเลิศที่เขาต้องการ
ด้วยตาหนึ่งจับจ้องอยู่ที่อดีต และอีกหนึ่งมองไปข้างหน้า เขามองเห็นวิสกี้ที่เขาต้องรังสรรค์ขึ้นในวันอนาคตเพื่อที่จะผลิตวิสกี้ที่เป็นโปรดปรานของทุกคนในวันนี้ และในขณะเดียวกันก็คอยสำรวจ ทดลอง และสร้างสูตรการปรุงใหม่ๆที่ยังไม่มีใครนึกถึง
ติดตามทุกกระบวนการผลิตวิสกี้ จากข้าวบาเลย์สู่บรรจุภัณฑ์
อ่านต่อ